สอนทำคอลลา ลิลลี่ ดอกไม้ดินไทย ดินญี่ปุ่น How to make Calla lily

คอลลา ลิลลี่

ดอกคอลลา  ลิลลี่หรือคาร่า ลิลลี่ ได้รับการยกย่องให้เป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสว  เป็นดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดในงานแต่งงาน  ช่วยสร้างความรู้สึกหรูหรา  สง่างามให้กับบ้าน  และยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์  สง่างาม  เพราะว่าดอกคาร่าลิลลี่เป็นดอกไม้ที่แย้มบานช้าๆ และมีสีสันที่ให้เลือกมากมาย

การทำคาร่า ลิลลี่ ทำไม่ยาก ดอกใหญ่จะไม่นิยมทำใบ  เพราะใบของคาร่า ลิลลี่ มีขนาดใหญ่  หากนำมาประดับด้วยจะทำให้เกะกะ  ลดความโดดเด่นของดอกลง  แต่ถ้าทำขนาดเล็กขนาดของใบก็เล็กตามไปด้วย จัดเป็นกอลงกระถางก็สวยงามเช่นกัน

ป้าวัชร์จะสอนทำคาร่า ลิลลี่ ดอกขนาดใหญ่สุด  ดอกเดี่ยวปักแจกันก็สวยโดดเด่น

อุปกรณ์หลัก  ดินทำดอกไม้  ผสมสีต่างๆตามชอบ  ลวดต้น  สีเขียวเบอร์ 37 พิมพ์ตัดหรือใช้พิมพ์กระดาษก็ได้ (เพราะจำนวนดอกไม่มากและมีขนาดใหญ่) เหล็กคลึง ดัมเบล

วิธีทำ

การทำก้าน
ผสมดินสีเขียวเบอร์ 37 สีเขียวปานกลาง  นำไปหุ้มลวดต้น โดยเว้นส่วนปลายลวดไว้ประมาณ 4 ซม.  วางผึ่งให้แห้ง

การทำเกสร

ใช้ดินสีเหลือง ปั้นเป็นก้อนกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ  2  ซม.  เสียบเข้ากับปลายลวดก้าน  คลึงให้เป็นรูปเกสร ความยาวประมาณ 5-6 ซม. ใช้ไม้จิ้มฟันสกิดเกสรให้เป็นรอยนูนเล็กๆ ตั้งทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเพ้นท์เกสรด้วยสีเดียวกับสีดอก

การทำกลีบดอก
กลีบดอกถ้าขนาดใหญ่รีดดินให้หนากว่ากลีบเล็ก  กลีบดอกเบอร์ใหญ่สุดรีดดินเบอร์ 5  จะกดลายจากลายเรซินหรือใช้ไม้บรรทัดกดก็ได้  ใช้เหล็กคลึงคลึงริมให้พลิ้วเล็กน้อย  บิดปลายกลีบให้อ่อนพลิ้วไปทางขวาหรือซ้ายก็ได้  วางผึ่งกลีบให้หมาด แล้วเบลด้านหลังกลีบใก้ลขอบกลีบ ส่วนด้านล่างใกล้โคนกลีบดอกให้เบลด้านหน้า
การจัดทรงดอกให้ดูจาก VDO  จัดทรงดอกให้บานมากหรือน้อยได้ตามใจชอบ เมื่อจัดทรงดอกเรียบร้อยแล้วนำกลีบดอกไปติดกับก้านและเกสร  นำดอกไปห้อยหัว หมั่นแต่งทรงกลีบดอก เมื่อกาวแห้งนำดินสีเขียวมาพอกก้านระหว่างรอยต่อของกลีบกับก้านไล้น้ำให้กลมกลืนกัน

การเพ้นท์กลีบ  เพ้นท์ขอบกลีบสีเข้มกว่าส่วนอื่น  โคนกลีบเพ้นท์สีเขียวอ่อนๆ

ทำหลายๆดอกจัดใส่ลงภาชนะใสๆ เช่น โถ  ขวด แก้วทรงสูง  สวยสง่าทีเดียว  หรือทำแบบก้านยาวไม่มากนัก จัดลงกระเช้า แจกันจัดรวมกับดอกไม้อื่นๆแต่ยกให้สูงกว่าดอกไม้อื่น ก็ดูสวยสง่าเช่นกัน

ปั้นขนมมงคล ดินไทย ดินญี่ปุ่น ของขวัญอวยพรปีใหม่

ขนมมงคล

ใกล้ปีใหม่แล้ว ไม่รู้จะนำอะไรไปอวยพรท่านผู้ใหญ่ ลองมาทำขนมมงคลมอบแด่ท่าน นอกจากจะมีความหมายดีแล้วยังมีความสวยงามน่าวางโชว์

วัสดุอุปกรณ์หลัก  ดินปั้น สีขาวเบอร์ 40  ชมพูเบอร์49  เหลืองเบอร์ 8 สีเขียวเบอร์37 และสีอื่นๆตามชอบ


นำดินผสมสีเหลืองและเติมสีชมพูเล็กน้อย จะได้สีเหลืองทอง ใช้กับขนมทองหยอด ทองหยิบ จ่ามงกุฏ ทองเอก ส่วนฝอยทองเพิ่มสีชมพูมากกว่าชนิดอื่นจะได้เป็นสีไข่แดง

ขนมทองหยอด

การทำขนมทองหยอด คลึงดินเป็นก้อนเล็กๆ เล็กใหญ่ขนาดไหน ดูให้เหมาะกับภาชนะที่ใส่ แล้วคลึงให้คล้ายหยดน้ำ

ขนมทองหยิบ

การทำขนมทองหยิบ  คลึงดินเป็นก้อนกลมๆ บีบให้แบน ใช้ไม้จิ้มฟันกดริมให้เป็นกลีบดอก 5 กลีบ

ขนมทองเอก

ขนมทองเอกในการทำขนมจริงๆ  รูปทรงมีหลายแบบขึ้นอยู่กับพิมพ์ ใน VDO จะเป็นอีกรูปทรงหนึ่งเพื่อเพิ่มความสวยงามขึ้น

ฝอยทอง

การทำฝอยทอง

 ปั้นแกนก่อน แล้วรีดดินให้บาง ใช้มีดตัดดินให้เป็นเส้น  แล้วนำไปม้วนหุ้มแกน

การทำฝอยทองอีกวิธีคือตัดดินเป็นรูปใบไม้แหลมหัวแหลมท้าย แล้วนำไปกดลายบนพิมพ์กลีบบัว นำมาพับครึ่งโดยสอดไม้หรือพู่กันให้โป่งออก ดูรูปสุดท้าย

เม็ดขนุน

วิธีทำเม็ดขนุน

ใช้ปากคีบหรือมีดหนีบดินด้านข้าง หัวท้าย 

ขนมเสน่ห์จันทน์

วิธีทำขนมเสน่ห์จันทน์

ขนมจ่ามงกุฏ

วิธีทำขนมจ่ามงกุฏ

ทำส่วนฐานก่อนด้วยดินสีน้ำตาลอ่อน  ตามด้วยทำเม็ดแตงสีขาว ทำส่วนบนของมงกุฏใช้ดินสีเหลือง

 ติดเม็ดแตง แล้วนำไปติดกับฐานด้วยกาว

ขนมถ้วยฟู

วิธีทำขนมถ้วยฟู

ขนมถ้วย

วิธีทำขนมถ้วย

ขนมชั้น

วิธีทำ

ขนมชั้นม้วนเป็นดอกกุหลาบ

วิธีทำขนมชั้นเป็นตอกกุหลาบ

การทำใบตอง

การจัดขนมลงภาชนะ

เมื่อจ้ดเสร็จแล้ว  วางให้ขนมแห้งแล้วทาแล็คเกอร์หรือน้ำยาทาเล็บ

ภาพที่สาธิตรีบจัดให้ดูแนวการจัด ยังขาดความเรียบร้อย ขนมที่จัดทรงสูงจะต้องเสริมดิน

เป็นฐานสูงขึ้นด้วยดินสีเขียว

สวยงาม มีความหมายและดูมีคุณค่า

ซิมบิเดียม Cymbidium

ซิมบิเดียม

 กล้วยไม้สกุลซิมบิเดียม  มีทั้งชนิดที่เป็นรากอากาศ ยึดเกาะและอาศัยหากินบนต้นไม ้และที่เป็นรากดินอาศัยขึ้นอยู่ตามพื้นดิน ลักษณะลำต้นมีลำลูกกล้วยบางชนิดมีลำลูกกล้วยยาว บางชนิดก็สั้น แต่ละลำ จะมีใบติดอยู่ไม่กี่ใบ มีทั้งชนิดที่ใบตั้งและใบโค้งลง ช่อดอกออกที่โคนลำลูกกล้วย ช่อดอกมีทั้งช่อตั้งและช่อห้อย กลีบดอกชั้นนอกและชั้นในมีขนาดใกล้เคียงกัน ปากมี 3 แฉก หูจะตั้งและแนบติดกับด้านข้างของเส้าเกสร กล้วยไม้สกุลิมบิเดียมพบแล้วประมาณ 50 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ในมาดากัสกา ศรีลังกา อินเดีย จีน ไปจนถึงญี่ปุ่น และพม่า ไทย มาเลเซีย จนไปถึงออสเตรเลีย ในประเทศไทยพบประมาณ 18 ชนิด ที่เห็นอยู่ทั่วๆ ไป ได้แก่ กะเรกะร่อน (Cymbidium finlaysonianum)  ปัจจุบันกล้วยไม้สกุลซิมบิเดียมชนิดที่เป็นกล้วยไม้ดิน นิยมนำมาขยายพันธุ์เพื่อผลิตลูกผสมกล้วยไม้ตัดดอก ซึ่งแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ อเมริกา ออสเตรเลีย และไต้หวัน

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก

• เพาะกล้วยไม้   

ซิมบิเดียมดอกไม้ดิน  สวยสดอยู่ได้นาน  ใครเห็นก็อยากเป็นเจ้าของ  เดือนนี้คนใกล้ชิดสั่งทำแบบรีบด่วน  ป้าไม่มีเวลาที่จะถ่าย VDO ไว้  คราวนี้ชี้แนะการทำไม่ละเอียด ลองมาดูนะคะ

อุปกรณ์หลัก พิมพ์ ดอก-ใบ  ดัมเบล เหล็กคลึง  สีเบอร์ 28 หรือ 543

การทำเกสร

  การทำกลีบปาก

การทำกลีบดอก

การเพ้นท์สีปาก  ใช้สีอะคริลิก สีน้ำตาลม่วง ใช้พู่กันเบอร์ 0 หรือทำเป็นกรวยเพ้นท์  ปั้นลิ้นยาวรีแหลมหัวท้าย ทากาวติดกลีบปาก แล้วใช้เหล็กแหลมผ่าซีก  โคนกลีบในแต้มสีเป็นจุดๆ

เกสรเพ้นท์สีเบอร์ 28 หรือ  543 กลีบบนกลีบล่างเพ้นท์สีเบอร์ 28

ลักษณะดอกตูม

ลักษณะหน่ออ่อน

ต้นสำเร็จ  กอใหญ่สูงประมาณ 2 ฟุต งามสง่า ดูมีค่ามีราคาทีเดียว

กอเล็กสูงประมาณ 1 ฟุต  สวยงามน่ารัก เหมาะที่จะวางบนโต๊ะทำงาน

เพ้นท์ดอกด้วยสีเบอร์ 543

คราวหน้าเมื่อสะสางงานยุ่งๆเสร็จแล้ว จะสาธิตการทำดอกตูม ดอกอ่อน ทำใบและการติดกาบ 

อย่าลืมติดตามนะคะ

สอนทำรองเท้านารีเหลืองกระบี่ ดอกไม้ดิน How To Krabi Paphiopedilum

รองเท้านารีเหลืองกระบี่

รองเท้านารีเหลืองกระบี่เป็นกล้วยไม้ในสกุลรองเท้านารี ค้นพบโดย Mr.H.Ridley ในปี ค.ศ. 1891 โดยตั้งชื่อ Paph.insigne var.exul ภายหลังจึงจำแนกมาเป็นสายพันธุ์เฉพาะ คือ Paph.exul
รองเท้านารีเหลืองกระบี่เป็นไม้พุ่มกว้างประมาณ 30-40 ซม. ใบกว้าง 2.5-3 ซม. ยาว 20-30 ซม. ใบสีเขียวเป็นมัน แตกหน่อง่าย มักเจริญเติบโตเป็นกอใหญ่ ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดดอก 6-7 ซม. ก้านดอกยาวประมาณ 12-15 ซม. กลีบบนมีริมสีขาว โคนกลีบสีเขียวปนเหลือง และมีจุดประขนาดใหญ่สีม่วงปนน้ำตาล กลีบในแคบสีเหลืองเป็นมัน ริมกลีบเป็นคลื่นงุ้มมาด้านหน้า มีเส้นสีน้ำตาลกลางกลีบ กระเป๋าสีเหลืองอมเขียวเป็นมันเงา ออกดอกในเดือนเมษายน– มิถุนายน (จากวิกิพีเดีย)

รองเท้านารี สักดอกจัดลงกระถาง มีดอกตูมประดับ จะสวยงามโดดเด่น ใครเห็นเป็นชอบ  หากทำรองเท้านารีหลายดอกจัดลงกระถางแต่ละดอกจะข่มกันเอง ทำให้ลดควมโดดเด่นลงมากทีเดียว 

*****รอโหลดประมาณ 3-5 นาที VDO หลายภาพ******

วัสดุอุปกรณ์  ดินสีขาวเบอร์ 45  สีเขียวเบอร์ 37 และสีเหลืองเบอร์ 13  สีน้ำตาลเบอร์ 2  พิมพ์ตัดดอกและใบ

ป้าตัดกระดาษใช้เป็นพิมพ์กระเปาะ และดอกเอง เพราะพิมพ์ที่ซื้อมาไม่ถูกใจ

วิธีทำ ดินสีเหลืองเบอร์ 13  ใช้ทำเกสร กระเปาะและกลีบข้าง
การทำเกสร  ใช้ดินสีเหลือง หุ้มลวดเบอร์ 18 และปั้นเป็นแผ่นกลมรีมาติดตรงปลาย

การทำกระเปาะ  รีดดินสีเหลืองเบอร์ 4  ใช้พิมพ์ตัดกระเปาะ  กดลาย ทากาวที่ขอบ  บีบให้ดินติดกันแล้วตกแต่งให้ได้รูปทรง ผึ่งให้แห้ง เพ้นท์ด้วยสีน้ำตาลเบอร์ 2

****เคล็ดลับใช้แป้งเด็กทาด้านในเพื่อไม่ให้ดินติดกันและติดอุปกรณ์ ดินที่ใช้ควรจะค่อนไปทางแห้ง****

การทำกลีบบน กลีบบนรีดดินสีขาวรีดเบอร์ 4  ตัดกลีบ  ลบเหลี่ยม  คลึงรอบ  บีบปลายกลีบ ผึ่งให้หมาดเสียบก้านแล้วเบลให้โค้ง ผึ่งให้แห้ง เขียนลาย เพ้นท์สีเหลือง ด้านหลังเพ้นท์สีเขียว จุดลายด้วยสีจากปากกาหรือสีAcrylic ใช้สีน้ำตาลแกมม่วง  (ควรใช้สีอะครีลิกเพราะแก้ไขง่ายหากจุดผิดเมื่อแห้งเราสามารถเขี่ยออกได้)

การทำกลีบข้าง  รีดดินสีเดียวกับกระเปาะ รีดดินเบอร์ 4 ตัดกลีบ ลบเหลี่ยม คลึงริมให้พริ้ว โดยเฉพาะปลายกลีบ จับสันกลีบ ผึ่งให้หมาดแล้วเสียบก้าน เพ้นท์กลีบสีน้ำตาลเบอร์ 2  เพ้นท์ด้านบนให้เข้มกว่าด้านล่างและเพ้นท์สันให้เข้มกว่าส่วนอื่น เมื่อเข้าช่อเรียบร้อยแล้วให้จุดสีน้ำตาลแกมม่วงที่โคนกลีบ

กลีบล่าง รีดดินเบอร์ 3  ตัดกลีบ ลบเหลี่ยม ตีลาย  ผึ่งให้หมาด เบลให้โค้งเล็กน้อย เสียบก้าน ทาสีเขียวเบอร์ 37 เรื่อๆ

การเข้าช่อดอก ติดกระเปาะกับเกสร  ติดกลีบข้าง ตามด้วยกลีบบนและกลีบล่าง

การทำก้านดอก ใช้คีมงอก้านดอกก่อนที่จะพอกดิน หากพอกดินก่อนงอจะทำให้ดินย่นเป็นคลื่น  คลึงก้านให้เรียบ ผึ่งให้แห้งแล้วทาก้านด้วยสีน้ำตาลเบอร ์2 ติดกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยงตีลายด้วย (กลีบเลี้ยงใช้พิมพ์บัวตัดก็รวดเร็วดีหรือจะปั้นเป็นรูปหยดน้ำแล้วแผ่ดินออกก็ได้)

สอนทำแคทลียา How To Cattleya Orchid

แคทลียา (Cattleya Orchid)

แคทลียา  มีสีสันสวยงาม มีหลากหลายสีและพันธุ์  ปัจจุบันได้นำไปผสมกับกลัวยไม้พันธุ์อื่น เกิดสายพันธุ์ใหม่ เป็นแคทลียาลูกผสม มีสีสวยสดใสจนได้รับการยกย่องให้เป็น  "ราชินีกล้วยไม้" 

วัสดุอุปกรณ์หลัก ดินสีขาว พิมพ์ตัดดอก-ใบ  แป้นพิมพ์ลายปาก เกสร  ลวดสีขาวเบอร์ 18  สีเขียวเบอร์ 24 สีตามชอบ  เหล็กคลึง กรรไกรเล็กปลายแหลม

วิธีทำ ****ใจเย็นนะคะโหลดนานหน่อย ภาพวีดีโอหลายภาพ*****
เกสร  ผสมดินสีขาว  ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วคลึงเป็นรูปทรงรี  นำลวดเบอร์ 18 ทากาวเสียบเกสร นำไปกดบนพิมพ์ลายเกสร นำออกมาบีบด้านข้าง และกดเป็นปุ่ม 2 ปุ่มด้านบน

กลีบปาก ผสมดินสีอ่อน สีตามใจชอบ รีดดินเบอร์ 4-5  ดอกใหญ่ต้ดเบอร์ 5  ใช้พิมพ์ปากตัด 1 กลีบ นำไปกดลายปากแคทลียา

ใช้กรรไกรขริบรอบๆ แล้วคลึงให้พริ้ว นำไปวางบนรังผึ้งผึ่งให้แห้ง

กลีบข้าง  ตัด 2 กลีบ  กดลายแคทด้านล่างของลาย  แล้วใช้กรรไกรขริบด้านข้าง

ใช้เหล็กคลึงคลึงให้พริ้ว

กลีบชั้นนอก  ตัด 3 กลีบ ลบเหลี่ยม ใช้เหล็กร่องขีดลาย  คลึงขอบโดยรอบ  กดปลายกลีบให้โค้ง  ใช้เหล็กคลึงปลายแหลมวางด้านหลังกดให้เป็นสัน วางผึ่งให้แห้ง

ใบ  รีดดินสีเขียวเบอร์ 3 เอาพิมพ์ตัดวางกดเบาๆเป็นรอยของใบ  นำลวดสีเขียว เบอร์ 24 มาวางตรงกลาง  พับดินทบทับอีกครั้ง แล้วนำพิมพ์มาตัดโดยให้ลวดเป็นเส้นกลางใบ ลอกดินออก ลบเหลี่ยม แล้วนำไปกดแนวกลางใบ

การดามกลีบข้าง

การดามกลีบนอก

การเพ้นท์กลีบปาก  เพ้นท์สีเหลืองเพ้นท์ตรงส่วนโคนดอก  แล้วใช้สีเบอร์ 28  เพ้นท์ด้านหลังก่อนแล้วใช้พู่กันเปล่าปัดเกลี่ยให้สีสม่ำเสมอ ด้านหน้าเพ้นท์ส่วนปลายให้เข้มกว่าส่วนอื่น

การเพ้นท์กลีบข้าง  กลีบข้างเพ้นท์รอบกลีบเพ้นท์ให้ปลายกลีบสีเข้มกว่าส่วนอื่น กลีบข้างสีอ่อนกว่ากลีบปาก

การเพ้นท์กลีบนอก กลีบนอกเพ้นท์ส่วนปลายให้เข้มกว่าส่วนอื่น

การติดเกสรกับปากแคท  ทากาวรอบๆโคนกลีบปาก แล้วหุ้มเกสร หากใช้กาวร้อนจะติดแข็งแรงกว่าแต่ป้าไม่อยากใช้ถ้าไม่จำเป็นจึงใช้กาวลาเท็กชนิดพิเศษแห้งเร็ว

การติดกลีบข้าง กลีบข้างติดเเฉียง หากใช้กาวร้อนก็ไม่ต้องใช้ฟลอร่าเทปพัน

การติดกลีบนอก  

การพันก้าน

การทำดอกตูม  ใช้กลีบปากที่พริ้วแล้วและยังไม่ทันแห้งมาม้วนกับตุ้มสีขาว หุ้มทับด้วยดินสีเขียว แล้วตัดกลีบสีเขียวอ่อนมาหุ้มทับอีกที  ใช้เหล็กร่องตีลาย

การเพ้นท์ดอกตูม

การติดใบ

การทำต้น

การติดกาบ  รีดดินเครื่องรีดเบอร์ 2  ไม่ต้องผสมสี  ตัดดินเป็นรูปสามเหลี่ยม นำมาติดโคนต้น

การทำราก  ใช้ลวดสีขาวเบอร์ 24 หุ้มด้วยดินสีขาว คลึงให้เรียบแล้วปั้นดินสีเขียวก้อนเล็กๆมาติดส่วนปลายคลึงให้เรียบเนียนเข้าด้วยกัน หากไม่ติดดินสีเขียวค่อยเพ้นท์สีเขียวตรงปลายรากก็ได้

ชิ้นงานสำเร็จ

เสร็จแล้วพร้อมที่จะมอบให้......

ป้าสอนำแคทลียาผ้าใยบัวไว้ด้วย  สนใจคลิก www.phawach.blogspot.com    

มะลิวันแม่ ดอกไม้ดิน Jasmine

มะลิ (Jasmine)

ใกล้วันแม่แล้ว ลองมาทำดอกมะลิด้วยดินดู ดินไทย 1 ก้อน สามารถทำได้หลายดอก วิธีทำไม่ยากแต่จะทำอย่างไรให้สวย ขึ้นอยู่กับเคล็ดลับเล็กๅ น้อยๆ  ถ้าไม่มีพิมพ์อะลูมิเนียมตัด ใช้พิมพ์กระดาษแทนได้ หากทำจำนวนไม่มาก มาติดตามดูนะคะ

วัสดุอุปกรณ์หลัก  ดินผสมสีขาว  สีเขียวและเขียวอ่อนมากๆ ลวดสีขาวเบอร์ 22 และ 18 ลวดสีเขียวเบอร์ 26 พิมพ์ตัดดอกและใบ พิมพ์กดลายใบ เหล็กดัมเบลขนาดเล็กหรือเหล็กหัวไม้ก็อป ตุ้มมะลิ

พิมพ์กระดาษ นำมาใช้งานได้ดีทีเดียว หากดอกไม้ที่ประดิษฐ์จำนวนกลีบไม่มาก ความละเอียดไม่มาก ไม่ต้องไปซื้อพิมพ์ที่มีราคาแพง

พิมพ์มี 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่
ดอกบาน ในหนึ่่งดอกตัดขนาดเล็ก 3 กลีบ  กลาง 3 กลีบ ใหญ่ 2-3 กลีบ
ดอกแย้ม  ตัดขนาดเล็ก 3 กลีบ กลาง 3 กลีบ
ดอกตูม   ตัดขนาดเล็ก 3 กลีบ (ใช้ดินสีเขียวอ่อนหรือสีขาวแล้วเพ้นท์เขียวอ่อน)

การทำดอกตูม  นำตุ้มมาทากาว (ตุ้มมะลิมีขาย หรือจะปั้นด้วยดินขึ้นมาเองก็ได้ทิ้งไว้ให้แห้ง) นำกลีบมาหุ้มการหุ้มอย่าหุ้มเรียงซ้อนตามลำดับ ให้หุ้มแบบสับหว่าง จะดูเป็นธรรมชาติ กลีบชั้นที่ 2และ 3 ให้กลีบต่ำกว่าลงมาเล็กน้อยตามลำดับ

ดอกแย้ม นำดอกตูมมาใส่กลีบขนาดกลาง 3 กลีบให้สับหว่างกัน  กลีบกลางชั้นแรก เบลกลีบให้โค้งไปทางเดียวกัน อีก 2 ชั้นเบลกลีบให้โค้งสลับด้านในกลีบเดียวกัน อาจใช้อุปกรณ์อื่นมาเบลได้ เช่นก้น เหล็กคลึง ปากกา ก้นพู่กัน เข็มหมุดหัวโต ฯลฯ

ดอกบาน นำดอกแย้มมาเพิ่มอีก 2-3 ชั้น ติดให้สลับกัน การเบลกลีบในกลีบเดียวกันเบลสลับด้านเช่นกัน ใช้กรรไกรตัดกลีบให้ลึกลงไป เพื่อให้กลีบพริ้วได้มากขึ้น

นำดินสีขาวไปพอกใต้โคนกลีบลงมาประมาณ 1.5 ซม.

การตัดกลับเลี้ยง ปั้นดินเป็นรูปหยดน้ำ นำไม้จิ้มฟันมาเสียบจะได้กระชับในการถือ ใช้กรรไกรตัดแบ่ง 2 ซึก และตัดซอยเล็กๆ นำไปสวมก้านดอก

การทำใบ  พิมพ์ใบมี 2 ขนาด กดลายใบมะลิ หากไม่มีพิมพ์ลายใบ อาจจะใช้ด้านหลังของใบไม้ที่เห็นเส้นใบชัดๆ เช่นใบฝรั่ง  เมื่อตัดใบแล้วลบเหลี่ยม แล้วนำมากดลาย กดลายใบแล้ว นำใบมาดึงและบิดด้านข้างเบาๆเพื่อให้ขอบพลิ้วเล็กน้อย  นำลวดสีเขียวทากาววางบนใบแล้วบีบดินด้านหลังหุ้มลวด

ดอกที่สำเร็จแล้วนำสีเขียวมาเพ้นท์ตรงกลาง

การเข้าช่อ อาจจะนำ ดอกตูม แย้ม บาม มาเข้าช่อด้วยกัน 3 ดอก หรือ 2 ดอก

เคล็ดลับ กลีบแย้มหรือกลีบดอกบานควรวางให้กลีบเซทตัวคือผึ่งหมาด ก่อนที่จะนำมาเข้ากลีบ จึงควรทำกลีบดอกบานและกลีบดอกแย้มก่อน ครั้งละหลายๆกลีบ เมื่อติดกลีบเรียบร้อยแล้วให้นำไปแขวนห้อยหัวลง
เมื่อใกล้แห้งจึงนำมาตั้งให้ตรง ดินที่นำมาใช้ควรเป็นดินที่แห้งปานกลางอย่าใช้ดินแฉะ หากดินแฉะควรผึ่งดินให้หมาด

ดอกไม้ดิน การทำบัวพับ Lotus

บัวพับ

ดอกไม้ดิน มีข้อดีตรงที่สามารถทำเลียนแบบดอกไม้จากธรรมชาติได้ใกล้เคียงมาก  ยิ่งคนที่มีฝีมือปราณีต บางครั้งแทบมองไม่ออกว่าเป็นดอกไม้จริงหรือเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา

การทำบัวพับ  ช่วยฝึกเรื่องของการเบลกลีบให้โค้ง ซึ่งทำได้ง่ายกว่าทักษะด้านอื่น  บัวพับนำมาเข้าช่อกับใบไม้ที่มีลักษณะคล้ายใบเตย นำไปปักแจกันหน้าพระ จะอยู่ได้ทนเป็นปีที่เดียว


วัสดุอุปกรณ์  ดินไทย  สีเบอร์ 28  พิมพ์บัวหลวง  ดามดอกขนาดกลาง เกสรบัวสำเร็จ พู่กัน ดัมเบล

นำดามดอกเบอร์ 2  มาขยายเป็นพิมพ์ตัดกลีบดอกชั้นในสุด

นำกลีบบัว เบอร์ 1 มาบีบให้เล็กลง เป็นกลีบเล็ก  และใช้เบอร์ 3 เบอร์ 4 เป็นกลีบบัวพับ

วิธีทำ  ผสมสีเเบอร์ 28 ลงในดิน ให้เป็นสีชมพูอ่อนมากๆ ภาพข้างล่างเปรียบเทียบกับสีขาว

กลีบดอก  กลีบในสุด ใช้ดามดอกเบอร์ 2 ตัดกลีบดอกชั้นในสุด  กดลาย  ผึ่งพอหมาด เบลให้โค้ง ผึ่งให้แห้ง

กลีบดอก  กลีบเล็ก  ใช้พิมพ์บัวหลวงเบอร์ 1 บีบให้แคบลง  ตัดกลีบเล็ก ดอกละประมาณ 25 กลีบ ลบเหลี่ยม กดลายบัว (ลายบัวอาจจะใช้พิมพ์ลายแบบแบนก็ได้)  บีบส่วนปลาย  ผึ่งพอหมาด เบลให้โค้ง  ติดเกสรสีขาวที่ปลายกลีบ  วางบนรังผึ้งทิ้งไว้ให้แห้ง

กลีบบัวพับ  มี 2 ขนาด  ใช้กลีบบัว เบอร์ 3 และ 4  ตัดกลีบอย่างละ 5 กลีบ ต่อ 1 ดอก  ลบเหลี่ยม  กดลายบัว  ติดลวดเบอร์ 28  ด้านที่ไม่กดลาย  วางไว้พอหมาดแล้วพับ

การเพ้นท์กลีบ  กลีบเล็ก ใช้สีเบอร์ 28  เพ้นท์เป็นทางยาวแต่ละกลีบ  อาจจะเพ้นท์ ริม  กลาง แตกต่างกัน ส่วนกลีบในสุดไม่ต้องเพ้นท์

 กลีบใหญ่ เมื่อเริ่มแห้งแผ่ออกเพ้นท์สีกลีบด้านที่มีลาย เพ้นท์ตรงกลาง เว้นขอบไว้ แล้วพับกลับ

การประกอบดอก  นำเกสรบัวสำเร็จ  มาเติมดินด้านล่างเพื่อให้ติดกลีบได้ง่าย  ทากาว นำกลีบในสุดมาติด 1 รอบ และติดกลีบเล็กรอบนอก 2 รอบ โดยติดให้สับหว่างกัน แล้วนำกลีบบัวพับเบอร์ 4 มีขนาดใหญ่กว่ามาติดก่อน 5 กลีบ ชั้นล่างสุดติดกลีบ เบอร์ 3  ให้สับหว่างกัน

ก้าน   นำดินสีเขียวมาพันก้าน ใช้เหล็กคลึงปลายแหลมสกิดก้านให้เป็นหนาม

ชิ้นงานชิ้นนี้หวังว่าผู้สนใจคงถูกใจนะคะ

ดอกไม้ดิน ดอกบัวดิน

 ดอกบัวดิน

มือใหม่ที่หัดทำดอกไม้ดิน ควรฝึกทักษะในด้านต่างๆ เช่น การเบลกลีบ การพริ้วกลีบ  การพันก้าน ฯลฯ ดอกบัวดินจะฝึกทักษะด้านการพันก้าน  ลองดูนะหากทำเสร็จหนึ่งกอ จะชำนาญเรื่องพันก้านทันที

วิธีทำ ก้านดอกบาน ใช้ลวดสีขาวเบอร์ 20 ก้านดอกตูม เบอร์ 22 นำก้านมาเว้นช่วงบน 3/4 นิ้ว ช่วงล่าง 2 นิ้ว ใช้ดินสีเขียวกลางพันก้าน พักให้แห้ง

ทำเกสร  นำลวดลำต้นมาทากาวส่วนบน หุ้มด้วยดินสีขาว ใช้กรรไกรตัดส่วนปลาย 3 แฉก บานแยกออกเป็นเกสร

แล้วนำเกสรสีเหลือง 6 อัน มาติดดิน พันรอบเกสรตรงกลาง ติดให้สูงเสมอกัน นำดินมาพอกอีกครั้งดังรูป

การทำดอกตูม นำก้านที่แห้งแล้วมาหุ้มดินปั้นเป็นรูปหยดน้ำ (ดินเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม.) ใช้ปากคีบมาบีบดินเป็น 5 กลีบ แล้วลูบกลีบลงซ้อนกันไปทางเดียวกันแล้งบิดเป็นเกลียวเล็กน้อย

การทำกลีบดอก  รีดดินเบอร์ 3  ตัดกลีบ 6 กลีบ ลบเหลี่ยม  นำมากดลาย ทั้งสองด้าน ใช้เหล็กคลึงรอบๆกลีบ ดัดปลายกลีบให้โค้ง  กดโคนกลีบให้โค้ง  ผึ่งให้แห้ง

การทาสีกลีบ  ให้ระบายสีตรงส่วนปลายกลีบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

การประกอบดอก  ทากาวโคนกลีบดอกแล้วติดกับเกสร ชั้นที่ 1 ติด 3 กลีบ ชั้นที่ 2 ติดสับหว่าง ห้อยทิ้งไว้ให้แห้ง

กลีบเลี้ยง  ใช้ดินสีเขียวเท่าเมล็ดถั่วเขียว บีบให้แบมาติดืี่โคนกลีบดอก  เกลี่ยดินให้กลมกลืนกับก้านดอก

การติดกลีบเลี้ยงตรงก้านดอก ปั้นดินสีขาวเป็นรูปหยดน้ำปลายแหลม  ใช้เหล็กแหลมคลึงให้แบนติดที่ก้านดอก ให้ต่ำลงมาจากโคนกลีบ 2 นิ้ว  ระบายโคนกลีบเลี้ยงด้วยสีน้ำตาลเบอร์ 2 

การทำใบ  ใช้ลวดเบอร์ 22  พันด้วยดินสีเขียวทำเหมือนกับพันก้านดอก แล้วนำไปใส่ระหว่างแผ่นพลาสติก  ใช้นิ้วลูบให้แบน หรืออาจจะใช้ทิชชูรองมือลูบจะลื่นกว่า จะได้ใบที่แบนเล็กน้อย ขนาดสั้นยาวตามต้องการ

การเข้ากอ  นำใบ 4-5 ใบ ความยาวแตกต่างกัน มามัดรวมกับดอก พันด้วยฟลอร่าเทป  มัดไว้เป็นชุดๆ ใช้มือลูบใบให้โค้งตามต้องการ  แล้วนำไปปักลงกระถางจัดให้สวยงาม 

เสร็จแล้วพร้อมที่จะมอบให้เพื่อนฝูง สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับค่ะ